• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🦖การเจาะดิน🥇 สิ่งจำเป็น 🌏แต่คนมองข้าม ทำไมต้องเจาะสำรวจดิน?🌏

Started by Beer625, Jul 30, 2024, 09:51 PM

Previous topic - Next topic

Beer625

📌👉👉โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร📢 ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาก่อสร้างแนะนำ🦖 แต่ผู้รับเหมาบางเจ้า⚡ต้องการลดค่าใช้จ่าย🌏 (ผมขอย้ำว่าบางราย ไม่ใช่ทุกรายนะครับ✨) ก็จะละเว้นการทดสอบบางอย่างที่เห็นว่าไม่จำเป็น✅ ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่ตัดสินใจตัดออกคงหนีไม่พ้นเรื่องการเจาะสำรวจดินก็เป็นแน่✅ ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง📢 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร📌



🌏⚡✨✨ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน📢✨🥇🛒🌏

1. เพื่อทราบชนิดและประเภทของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง🌏 เพื่อทำให้ทราบลักษณะเชิงกล🌏 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม📢 หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่🎯
2. ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง)📌 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อจะได้คำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🌏 และคาดคะเนความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้📢
3. การลดข้อผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม🦖 หากเจอชั้นดินแข็งแต่ไม่หนา ที่ชั้นความลึกน้อย ๆ🎯 อาจทำให้หยุดตอกเสาเข็มเพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็ง🛒 แต่ที่จริงสามารถตอกต่อไปได้อีกเล็กน้อย✅
4. หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก📢 วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจหลายหลุมเพื่อเปรียบเทียบ📢 อาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิดเพื่อก่อสร้างอาคารนั้น ๆ🦖

📌🦖🎯👉ประเภทของการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้📢⚡✨🥇🥇

1. การใช้เครื่องเจาะ Motorized Drilling Rig✅
เป็นเครื่องเจาะสำรวจดินที่สามารถขนย้ายเข้าจุดเจาะสำรวจดินได้แบบไม่ยุ่งยาก🦖 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาหน่วยเจาะสำรวจดิน🛒 ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวก🌏 และรวดเร็วในการติดตั้ง🎯 ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🦖 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำและหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)📌 ต่อจากแท่งเจาะ🎯 ปลายบนต่อกับหัวหมุน🥇 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดินด้วยเครื่องกว้าน👉 จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ📌 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในดินเหนียวอ่อน✅ หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในดินแข็ง👉 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง ท่อป้องกัน🛒 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงดินแข็ง🎯 เพื่อป้องกันการพังทลาย📌 และใช้ สารละลายเบนโทไนต์✅ ช่วยป้องกันการพังในชั้นทราย📢 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50✨

2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling✅
สามารถใช้เจาะดินได้ทุกประเภท🎯 เป็นลักษณะของเครื่องเจาะสำรวจดินที่มีประสิทธิภาพสูง⚡ ด้วยระบบไฮดรอลิก (Hydraulic)✨ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคน🦖 สามารถเจาะสำรวจดินแบบทะลุทะลวงได้ลึกเกินกว่า 40 เมตร🛒 โดยใช้เครื่องยนต์ Rotary Drilling Rig✨ ที่ส่งกำลังปั่นหัวเจาะลงไปลึกในระดับความเร็วที่ต้องการ🥇 ดินจะถูกปั่นขึ้นมาตาม (flight auger)🛒
วิธีนี้เครื่องยนต์จะใช้กำลังบิดหัวเจาะมาก🌏 ดังนั้นจึงมักเจาะช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร⚡ แล้วยกหัวเจาะขึ้นนำดินออก🦖 แล้วเจาะต่อไปอีก 1.5 เมตร🎯 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก✨ การใช้หัวเจาะผนวกกับการเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง📢 หรือการเจาะด้วยความเร็วสูง✨ ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ📌 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง🦖 เพื่อพาดินขึ้นมาที่ผิวดิน🌏 เศษดินและหินถูกส่งขึ้นมาพร้อมน้ำจากหัวเจาะ✨ ในดินแข็งหลุมจะไม่พังทลาย🛒

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand📌 ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย✨ หรือไม่ก็ต้องใช้ drilling mud (ส่วนผสมของน้ำกับสาร Bentonite)🦖 ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลาย📢 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พังแล้ว ยังช่วยพาเอาวัสดุเม็ดใหญ่จากก้นหลุมขึ้นมาด้วย⚡ เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องเป็นหัวเจาะเพชรเพื่อกัดลงในชั้นหินให้ได้พร้อมเก็บตัวอย่างแท่งหิน🦖 จึงเรียกว่า Rock Coring✅